"ฝรั่งเศส"หวั่นก่อการร้ายระดมตร. 8 พันคุมเคานท์ดาวน์หอไอเฟล

ประมวลภาพ เคาท์ดาวน์ทั่วโลก

วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:40:60 น. มติชนออนไลน์ "ฝรั่งเศส"หวั่นก่อการร้ายระดมตร. 8 พันคุมเคานท์ดาวน์หอไอเฟล พิษพลุฟิลิปปินส์ดับ 5 เจ็บกว่า 600 ประมวลภาพบรรยากาศความสุข สนุกสนาน วินาที"เคาท์ดาวน์"ฉลองปี 2010 ทั่วโลก พิษพลุฟิลิปปินส์ดับ 5 เจ็บกว่า 600 ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศการเคานท์ดาวน์เฉลิมฉลองปี ใหม่ทั่วโลก โดยการเฉลิมฉลองเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเข้าสู่ปีใหม่ก่อนหน้าพื้นที่อื่นๆ ในโลก โดยที่ออสเตรเลีย ผู้คนกว่า 1.5 ล้านคน พากันมารวมตัวอยู่ที่บริเวณอ่าวซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ เพื่อชมการจุดพลุในเวลาเที่ยงคืนขึ้นเหนือท้องฟ้าบริเวณสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์ นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลียส่งสารวันปีใหม่ถึงประชาชนชาวออสเตรเลียโดยระบุว่า เหตุการณ์ในปี 2552 ที่ผ่านไปมีเหตุการณ์ที่ดีที่เกิดขึ้นมากมายเช่น การที่สหรัฐมีประธานาธิบดีผิวสีคนแรก และมีความพยายามร่วมกันในระดับโลกที่จะรับมือกับภาวะโลกร้อนและวิกฤต เศรษฐกิจโลก และสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับปี 2552 คือ "เราได้ร่วมมือกันและเราจะร่วมมือกันทำงานต่อไป" ที่วัดเซนโซจิ ซึ่งเป็นวัดพุทธที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีพุทธศาสนิกชนหลายพันคนที่มาทำพิธีปล่อยลูกโป่งขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการเฉลิม ฉลองปีใหม่ โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะได้พระราชทานพรปีใหม่ให้กับพสกนิกรชาว ญี่ปุ่นโดยทรงให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้ง ร้ายแรงที่สุดในรอบทศวรรษเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา ขณะที่ในฮ่องกง มีการเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยการจุดพลุกว่า 9,000 ลูก จากอาคารสูงหลายแห่งขึ้นเหนือท้องฟ้า ส่วนที่ฟิลิปปินส์เจ้าหน้าที่ของทางการเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 600 ราย จากการฉลองปีใหม่ทั่วประเทศด้วยการจุดดอกไม้ไฟและการยิงปืนขึ้นฟ้าในคืนวัน สิ้นปีโดยชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มีความเชื่อซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเพณี จีนว่าการเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยความอึกทึกครึกโครมจะเป็นการขับไล่สิ่งชั่ว ร้ายและปัดเป่าความโชคร้ายออกไป ฝรั่งเศสระดมตร.กว่า 8 พันคุมเข้ม ทางด้านจีนซึ่งแม้ว่าตามประเพณีแล้วจะนับวันขึ้นปีใหม่ในวันตรุษจีน ซึ่งตรงกับช่วงเวลาราวเดือนกุมภาพันธ์ แต่ที่นครเซี่ยงไฮ้ยังคงมีผู้คนบางส่วนที่ออกมาทำบุญที่วัดหลงหัวในเวลา เที่ยงคืนและอธิษฐานให้มีโชคดีในปีใหม่ โดยมีการตีระฆังและหยอดเงินบริจาคจำนวน 518 หยวน ซึ่งในภาษาจีนคำว่า "518�" จะพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า "ฉันต้องการความมั่งคั่ง" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้คนกว่า 200,000 คน มารวมตัวกันบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเธมส์ เพื่อดูการจุดดอกไม้ไฟจากลอนดอนอาย ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่อยู่บริเวณอาคารรัฐสภาและหอนาฬิกาบิ๊กเบน ส่วนที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีผู้คนกว่า 70,000 ราย ที่มารวมตัวกันบริเวณหอไอเฟลเพื่อชมการแสดงแสงสี โดยมีการเกณฑ์เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 8,000 นาย มาดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วกรุงปารีส เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงซ้ำรอยปีที่แล้วที่มีการก่อจลาจลโดย การเผารถยนต์กว่า 1,100 คัน ในคืนวันสิ้นปี 2551 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ที่ออกมาอยู่ตามถนนเส้นที่นำไปสู่ประตูบรันเดนบูร์ก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างฝั่งตะวันตกละฝั่งตะวัน ออก โดยมีการจัดเวทีแสดงคอนเสิร์ตที่บริเวณดังกล่าว ขณะที่ในสเปน มีผู้คนหลายพันคนที่มาเข้าชมงานแสดงแสง สี เสียงที่จัตุรัสปวยร์ตา เดล โซลในกรุงมาดริด โดยมีการฉายภาพธงของสหภาพยุโรป (อียู) ไปยังอาคารแห่งหนึ่งซึ่งใช้แทนจอภาพเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ สเปนได้รับตำแหน่งประธานของกลุ่มประเทศอียูต่อจากสวีเดนนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ที่โปแลนด์มีการเฉลิมฉลองปีใหม่โดยการจัดคอนเสิร์ตรำลึกถึงไมเคิล แจ๊กสัน ราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับในกรุงวอร์ซอ โดยมีลาโทยา แจ๊กสัน น้องสาวของราชาเพลงป๊อปเข้าร่วมการแสดงด้วย ส่วนที่รัสเซีย ประชาชนราว 120,000 คน เดินทางมาที่จัตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโก ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาเพื่อร่วมพิธีดื่มอวยพรต้อนรับปี 2553 และฟังคำอวยพรจากประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ โดยเมดเวเดฟกล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่ายสำหรับประเทศของเรา และผมต้องการที่จะขอบคุณพวกคุณทุกคนที่ทนฝ่าฟันมาด้วยกัน ความสำเร็จในปีใหม่ของพวกเรานี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราจะทำให้กับครอบครัวและ ประเทศของเรา" "นิวยอร์ก"ฝ่าหิมะฉลอง ที่นครรัฐวาติกัน สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ได้เป็นประธานในพิธีสวดมนต์วันสิ้นปีที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์โดยพระองค์ทรง เรียกร้องให้ชาวคริสต์ให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทาง เศรษฐกิจและการว่างงาน ที่บราซิลนั้น ผู้คนจำนวนหลายพันคนพากันมาร่วมฉลองต้อนรับปีใหม่ที่ชายหาดโคปาคาบานา ในรัฐริโอเดอจาเนโร โดยมีการจุดพลุจำนวนมากและมีการเปิดเพลงท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก ส่วนที่ประเทศอุรุกวัย มีการฉลองปีใหม่ตามธรรมเนียมของชาวอุรุกวัยโดยการขว้างลูกโป่งน้ำใส่กันบน ถนนทั่วกรุงมอนเตวิเดโอ ส่วนที่จัตุรัสไทม์ส สแควร์ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีผู้คนนับล้านที่มารวมตัวกันท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นเพื่อร่วมต้อนรับการ มาถึงของปีใหม่ที่ถือเป็นทศวรรษใหม่โดยบรรดาผู้คนต่างเดินทางฝ่าหิมะไปร่วม งานฉลองปีใหม่ประจำปีที่จัดขึ้นอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมนับถอยหลังชมการปล่อยลูกบอลคริสตัลลงมาจากชั้นบนสุดของอาคารในเวลา เที่ยงคืน อันเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมายาวนานก่อนจะมีการโปรยกระดาษหลาก สีสันที่จัดเตรียมไว้คิดเป็นน้ำหนักถึง 1,360 กิโลกรัม โดยฝูงชนต่างส่งเสียงแสดงความยินดี ขณะเดียวกันมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาหลังเกิดเหตุชายชาวไนจีเรีย รายหนึ่งพยายามระเบิดเครื่องบินโดยสารของสายการบินนอร์ทเวสต์ของสหรัฐเมื่อ ช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยมีการเตรียมพลแม่นปืนจำนวนมากแยกย้ายกันซุ่มประจำการตามจุดต่างๆ รอบๆ จัตุรัสไทม์ส สแควร์ ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ส่งสารอวยพรปีใหม่ถึงชาวอเมริกันผ่านทางเว็บไซต์ของทำเนียบขาวโดยระบุว่า ปี 2552 ที่ผ่านมานับว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับชาวอเมริกันจำนวนมาก แต่สหรัฐได้ลุกขึ้นและเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านั้น เขากล่าวว่า ความมุ่งมั่นตั้งใจนั้นได้ดำรงรักษาไว้ซึ่งความฝันของชาวอเมริกันมาหลายชั่ว อายุคน และระบุว่ามีวันข้างหน้าที่สดใสรอคอยเราอยู่ รายงานข่าวยังแจ้งว่าประธานาธิบดีโอบามาที่อยู่ระหว่างการพักผ่อน ช่วงปีใหม่ตั้งแต่เย็นวันที่ 24 ธันวาคม ในรัฐฮาวายซึ่งเป็นสถานที่เกิดของเขา ได้ใช้เวลาในวันส่งท้ายปี 2552 โดยการไปออกกำลังกายที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในอ่าวคาเนโอเฮ หลังจากนั้นไปดูภาพยนตร์เรื่องอวตาร ในแบบ 3 มิติกับลูกสาวและเพื่อนๆ ของครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าวินด์เวิลด์ มอลล์ และปิดท้ายด้วยการไปตีกอล์ฟที่ สนามกอล์ฟมิดแปซิฟิก คันทรี คลับ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1262319959&grpid=&catid=